การจัดการความเสี่ยง
การจัดการความเสี่ยง หรือ การบริหารความเสี่ยง คือ การจัดการความเสี่ยง ทั้งในกระบวนการในการระบุ วิเคราะห์ ประเมิน ดูแลตรวจสอบ
และควบคุมความเสี่ยงที่สัมพันธ์กับ กิจกรรม หน้าที่และกระบวนการทำงาน
เพื่อให้องค์กรลดความเสียหายจากความเสี่ยงมากที่สุด
อันเนื่องมาจากภัยที่องค์กรต้องเผชิญในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง หรือเรียกว่า อุบัติภัย
องค์ประกอบการบริหารความเสี่ยง
1. การระบุชี้ว่าองค์กรกำลังมีภัยเป็นการระบุชี้ว่าองค์กรมีภัยอะไรบ้างที่มาเผชิญอยู่
และอยู่ในลักษณะใดหรือ ขอบเขตเป็นอย่างไร นับเป็นขั้นตอนแรกของการบริหารความเสี่ยง
2. การประเมินผลกระทบของภัยเป็นการประเมินผลกระทบของภัยที่จะมีต่อองค์กรซึ่งอาจเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าประเมินความเสี่ยงที่องค์กรต้องเตรียมตัวเพื่อรับมือกับภัยแต่ละชนิดได้อย่างเหมาะสมมากที่สุด
3. การจัดทำมาตรการตอบโต้ตอบความเสี่ยงจากภัยการจัดทำมาตรการตอบโต้ตอบความเสี่ยงเป็นมาตรการที่จัดเรียงลำดับความสำคัญแล้วในการประเมินผลกระทบของภัย
มาตรการตอบโต้ที่นิยมใช้เพื่อการรับมือกับภัยแต่ละชนิด อาจจำแนกดังนี้
· มาตรการขจัดหรือลดความรุนแรงของความอันตรายของภัยที่ต้องประสบ
· มาตรการที่ป้องกันผู้รับภัยมิให้ต้องประสบภัยโดยตรง
เช่น
· ภัยจากการที่ต้องปีนไปในที่สูงก็มีมาตรการป้องกันโดยต้องติดเข็มขัดนิรภัย
กันการพลาดพลั้งตกลงมา
· ภัยจากไอระเหยหรือสารพิษก็ป้องกันโดยออกมาตรการให้สวมหน้ากากป้องกันไอพิษ
เป็นต้น
· มาตรการลดความรุนแรงของสถานการณ์ฉุกเฉิน
เช่น กรณีเกิดเพลิงไหม้ในอาคาร ได้มีการขจัดและลดความรุนแรง
โดยออกแบบตัวอาคารให้มีผนังกันไฟ กันเพลิงไหม้รุนลามไปยังบริเวณใกล้เคียง
และมีการติดตั้งระบบสปริงเกอร์ ก็จะช่วยลดหรือหยุดความรุนแรงของอุบัติภัยลงได้
· มาตรการกู้ภัยก็เป็นการลดความสูญเสียโดยตรง
ลงได้มาก
· มาตรการกลับคืนสภาพ
ก็เป็นอีกมาตรการในการลดความเสียหายต่อเนื่องจากภัยหรืออุบัติภัยแต่ละครั้งลงได้
ประเภทของความเสี่ยง
เราสามารถแบ่งความเสี่ยงออกได้เป็น 4 ประเภท คือ
1. ความเสี่ยงทางธุรกิจ
(Business Risk) คือ
ความเสี่ยงที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงความสามารถในการทำกำไรของ
บริษัท อันเป็นเหตุให้ผู้ลงทุนต้องสูญเสียรายได้
หรือเงินลงทุน ประกอบด้วย ความเสี่ยงทางการเงิน ความเสี่ยง ด้านการบริหารจัดการ และความเสี่ยงในระดับอุตสาหกรรม
2. ความเสี่ยงทางตลาด (Market
Risk) คือ
การสูญเสียเงินลงทุนอันเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงราคาของหลักทรัพย์ที่ลงทุน
ซึ่งเป็นไปตามอุปสงค์ และอุปทานของตลาด
3. ความเสี่ยงในอัตราดอกเบี้ย
(Interest Rate Risk) คือ
ความเสี่ยงที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงในอัตราผลตอบแทนจากการลงทุน
อันเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงในอัตราดอกเบี้ยในตลาด
4. ความเสี่ยงจากอำนาจซื้อ
(Purchasing Power Risk) คือ
ความเสี่ยงทีเกิดจากอำนาจซื้อของเงินที่ลดลง ซึ่งสาเหตุสำคัญที่ส่งผลต่ออำนาจซื้อ
คือ ภาวะเงินเฟ้อ
ปัจจัยความเสี่ยง (Risk Factor)
ปัจจัยความเสี่ยง หมายถึง ต้นเหตุ หรือสาเหตุที่มาของความเสี่ยง
ที่จะทำให้ไม่บรรลุวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้
โดยต้องระบุได้ด้วยว่าเหตุการณ์นั้นจะเกิดที่ไหน
เมื่อใดและจะเกิดขึ้นได้อย่างไรและทำไม
ทั้งนี้สาเหตุของความเสี่ยงที่ระบุควรเป็นสาเหตุที่แท้จริง เพื่อจะได้วิเคราะห์และกำหนดมาตรการความเสี่ยง
ในภายหลังได้อย่างถูกต้อง
ปัจจัยความเสี่ยงพิจารณาได้จาก
1)
|
ปัจจัยภายนอก เช่น เศรษฐกิจ สังคม
การเมือง กฎหมาย ฯลฯ
|
2)
|
ปัจจัยภายใน เช่น กฎระเบียบ
ข้อบังคับภายในองค์กร ประสบการณ์ของเจ้าหน้าที่ ระบบการทำงาน ฯลฯ
|
การควบคุม (Control)
การควบคุม หมายถึง นโยบาย แนวทาง หรือขั้นตอนปฏิบัติต่าง ๆ
ซึ่งกระทำเพื่อลดความเสี่ยง และทำให้การดำเนินบรรลุวัตถุประสงค์ แบ่งได้ 4 ประเภท คือ
1. การควบคุมเพื่อการป้องกัน (Preventive Control) เป็นวิธีการควบคุมที่กำหนดขึ้นเพื่อป้องกันไม่ให้เกิด
ความเสี่ยง และข้อผิดพลาดตั้งแต่แรก
|
|
2. การควบคุมเพื่อให้ตรวจพบ (Detective Control) เป็นวิธีการควบคุมที่กำหนดขึ้นเพื่อค้นพบข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นแล้ว
|
|
3. การควบคุมโดยการชี้แนะ (Directive Control) เป็นวิธีการควบคุมที่ส่งเสริมหรือกระตุ้นให้เกิดความสำเร็จตามวัตถุประสงค์ที่ต้องการ
|
|
4. การควบคุมเพื่อการแก้ไข (Corrective Control) เป็นวิธีการควบคุมที่กำหนดขึ้นเพื่อแก้ไขข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นให้ถูกต้องหรือเพื่อหาวิธีการแก้ไขไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดซ้ำอีกในอนาคต
|
แหล่งที่มา https://www.google.co.th/search?q=การจัดการความเสี่ยง&rlz=1
สืบค้นเมื่อ 06/12/60


ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น